
ถือเป็นอีก 2นักร้องลูกทุ่งที่มาแรงในยุคนี้ สำหรับ เบิ้ล ปทุมราช และ ก้อง ห้วยไร่ โดยเฉพาะเวลาจับคู่ออกงานในแต่ละจังหวัด ได้รับกระแสตอบรับจากแฟนๆ ไปรอเฝ้าชมคอนเสิร์ตกันเนืองแน่น ล่าสุด เบิ้ล ประทุมราช ได้เปิดเผยกับ ข่าวสดออนไลน์ ถึงจุดเริ่มต้น ที่ได้มาเป็นเบิ้ลก้อง และเผยถึงค่าตัว ที่เจ้าตัวยอมรับว่าอัพขึ้นเมื่อรับงานคู่ และแจงประเด็น ที่หลายคนอาจจะสงสัย ทำงานด้วยกันมีปัญหาเรื่องเงินไหม

เบิ้ลก้องอยู่ด้วยกันปังมาก?
“ต้องบอกว่ามันเกิดขึ้นจากความเป็นธรรมชาติของเราสองคน จริงๆเราไม่ได้เป็นนักร้องที่อยู่ในวงการนานมัน เป็นยุคช่วงเปลี่ยนถ่าย แต่ว่ามันเข้าพร้อมกันเมื่อ8-9ปีที่แล้ว แต่ถามว่ารู้จักกันจริงๆก็ 10 ปีก่อนเข้าวงการ ตั้งแต่แรกคือได้มีการคุยกันผ่านโซเชียลและนัดเจอ จนวันนึงมันถูกถ่ายเลือดจนเป็นดาวดวงใหม่แล้วก็มีช่วงหนึ่งที่เรากับก้องผันตัวมาเป็นนักแสดงเล่นหนังอะไรบ้าง มันอาจจะไม่ได้มีงานเยอะแต่ด้วยความเป็นธรรมชาติของสองคน มีความเป็นตลก พอมันมาบวกกันมันเหมือนจากความฟีเวอร์ สมัยก่อน เหมือน 100 ต่อ 100 แล้วเราเอามาคนละ 50 เอามาอยู่ด้วยกันให้มันเป็น 100 เหมือนเดิม มันก็เลยทำให้ทุกคนอยากมาดูเรา เพราะเล่นตลก เล่นคอนเทนต์ที่เราทำไม่ได้มีสคริปต์ในการเล่นเหมือนที่อื่นๆ”
คิดไหมว่าการเป็น เบิ้ลก้อง มันจะประสบความสำเร็จแบบนี้?
“ก็รู้สึกตกใจนะ แรกๆมันกลายเป็นว่าทำให้ต่างฝ่ายต่างมีงานเยอะด้วย แต่ถ้าวันไหนมีงานคู่ก็คือปัง คนดูล้นทุกที่และเต็มทุกที่ บางที่ซื้อบัตรเต็มตั้งแต่2- 3 ชั่วโมง คืออยากไปดู บางคนเขาอยากไปถ่ายลงติ๊กต็อก เบิ้ลกับพี่ก้องเองก็เป็นคนที่มีอะไรเห็นตลอดทุกงาน ก็ไม่เคยคิดครับ แต่ว่ามันอาจจะเป็นเพราะความธรรมชาติที่ไม่ได้ปรุงแต่ง มันตลกด้วยสถานการณ์นั้นๆ อย่างที่ผมไปจังหวัดไหนที่เค้ามีของกินขึ้นชื่อแต่ละจังหวัด เขาก็จะมาฝาก ก็เลยต่อยอดหน้าเวทีได้ มันก็เลยไม่ได้มีสคริปต์ที่ตายตัว”
คิวมันยากไหมเพราะว่าอย่างเราก็มีงานแน่น?
“ยากมากครับ ก็เดือนนึงเกือบ30 งานอยู่แล้ว จะต้องมีการจองล่วงหน้า เพราะฉะนั้นคิวเบิ้ลกับพี่ก้องเดือนนึง น่าจะได้ไม่เกิน5-6คิว จริงๆเจ้าภาพอยากได้เยอะมาก ก็คือเรทสูงขึ้นอีกเท่าตัว คือต่างฝ่ายต่างได้รับค่าตัวที่มากขึ้น แต่เราจะรับงานเป็นสองแบบ แบบวงพี่ก้อง ผมก็จะได้ค่าตัวอีกรูปแบบนึง ถ้าเป็นวงผมก็จะรับในอีกรูปแบบหนึ่ง แต่ต้องรวมในเรทที่สูงกว่า สองแสนห้าหรือสองแสนหก”

แล้วเคยมีปัญหาเรื่องค่าตัวกันไหม?
“ไม่มีครับ คือเรากับพี่ก้องจะคล้ายๆกัน จะแยกเรื่องธุรกิจกับเรื่องของความสนุก เรื่องของพี่น้องออกมาให้ได้ ถ้าวันไหนเอามารวมกันจนคิดว่าอะไรๆ ก็ได้อ่ะ มันจะไม่มีคำว่าอะไรก็ได้ในวันหนึ่ง ยิ่งมันยากก็ยิ่งรู้สึกว่าปัญหาเงินบาทเดียวมันก็ยิ่งทำให้ทะเลาะกันได้ ผมไม่อยากจะมีปัญหากับใครในเรื่องนี้ ผมจะชัดเจนต่อกันทุกงาน ไม่เคยทะเลาะกันเลยครับ”
เห็นว่านำเงินที่ได้ทิปจากทุกงานไปทำบุญด้วย?
“เจตนาจริงๆมันเริ่มต้นจากต่างฝ่ายต่างชอบทำบุญอยู่แล้ว ผมชอบทำบุญแต่ไม่ค่อยได้โพสต์ลงหรือสื่อสารลงโซเชียลนะ แต่ถ้าวันนึงมีโอกาสได้มาทำงานกับพี่ก้อง แล้วพี่ก้องเขาก็เป็นคนที่ชอบทำบุญอยู่แล้ว เขาก็เลยออกไอเดียว่า เราเอาเงินเก็บทุกบาทที่ได้จากหน้าเวทีมาทำบุญให้เด็กๆในแต่ละพื้นที่และจังหวัดดีกว่า คืออย่างน้อยมันอาจจะไม่ได้เยอะครับ แต่ถ้าเราทำทุกจังหวัดทุกที่แล้วเขาได้เห็นและได้รับเงินจริงมันคือความสุข เพราะว่ายังไงเราก็มีค่าตัวของเราอยู่แล้ว ทิปนะบางทีมันได้มาจากผลของการโชว์ ผมมองว่า มันได้มาก็ต้องคืนให้กับสังคม ก็มีความสุขครับ ผมไม่ได้ต้องการทำให้มันมีคอนเทนต์หรือผลักดันตัวเองหรอก แต่มันเป็นเรื่องของความสบายใจที่จะทำ อย่างบางงานเราไม่ได้เลย พื้นที่ตรงนั้นเราไม่มีบุญ อาจจะไม่ได้ทำก็ได้ มันก็แล้วแต่สถานการณ์ เราไม่ได้บังคับตัวเองว่าต้องทำ มันไม่ได้ขนาดนั้น ผมมองเป็นกลาง ก็คือทำและจังหวะที่มันเป็นไปได้เพราะว่าทุกวันนี้ก็ทำเกือบทุกวันอยู่แล้ว”

คิดว่าเราทั้งคู่จะมีปัญหาดังแล้วแยกวงเหมือนที่หลายวงเป็นไหม?
“ไม่เคย เพราะว่ามันไม่เคยเป็นมาตั้งนานแล้วหรือถ้าจะเป็นจริงๆผมกับพี่ก้องจะไม่เกิน2-3วิ จะต้องอธิบายเป็นกระจกให้กันและกัน เพราะผมว่าพี่ก้องจะไม่มองเรื่องอายุ สอนกันไม่ได้ ว่ากันไม่ได้ ติกันไม่ได้ ชมกันไม่ได้ ผมจะแยกแยะคำชมคำติออก ในขณะที่ใช้ชีวิตร่วมกัน เพราะทำงานถ้าเราไม่มีความสุขคนดูข้างล่างก็จะไม่มีวันได้รับความสุขจากเรา เพราะฉะนั้นผมจะต้องทำตัวกับพี่ก้องว่า ให้รู้สึกว่าผมตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้เจอเขา จนไม่รู้ว่าต้องหาเหตุผลไหนที่จะต้องมาทะเลาะกัน มันไม่มี”
แล้วบางทีเราแซวแรง เล่นแรง มีตบหัวด้วย อย่างนี้มีเขาเคยโกรธไหม?
“มันก็มีขอโทษกัน หยอกกัน แต่ว่าผมกับพี่ก้องมันเลยจุดที่จะดราม่าต่อกันไปแล้ว มันผูกพันเป็นครอบครัว พี่เขายังมาซื้อบ้านตามมาอยู่ใกล้ผมเลย ก็คิดถึงผม บ้านห่างกันแค่ 4 นาที เวลาอยากไปก็ไป ไม่ว่าจะไปนอนไปกินไปซื้อไปเอาของไปขโมย”
เวลาเราเล่นหยอกแรงกับเมียเขา เขารู้สึกยังไง?
“เขารู้สึกว่าเขาต้องแบ่งปัน เพราะว่าเมียเขาก็มีลูกแล้วก็ ต้องให้คนอื่นชื่นชมบ้าง”

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : www.khaosod.co.th
ข่าวสารอื่นๆ : ก๊อต จิรายุ เคลื่อนไหว หลัง โบว์ เบญจวรรณ ลบรูปใน IG เกลี้ยง